วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2550

About North Pole



ขั้วโลกเหนือคืออะไร คำถามนี้ยังคงเป็นที่น่าฉงนแก่บรรดานักผจญภัยจากทั่วทุกมุมโลก แม้ว่าจะมีคนมากมายไปเล่นสกี ที่นั้นแต่ก็ยัง ไม่มีใครเป็นคนแรกที่พิชิตสถานที่แห่งนี้ได้สำเร็จสักคน ซึ่งในจุดนี้จึงถือว่าเป็นเวทมนต์อย่างหนึ่งที่หลาย ๆ คนไม่อาจต้านทานได้ และไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มนต์นี้เองจะทำให้มีนักสำรวจรุ่นแรก ๆ ผลิตวารสารขึ้นมากมาย โดยเฉพาะนักสำรวจที่พยายามผจญภัยกับความลำบากของทิศตะวันตกเฉียงเหนือและค้นหาทางเดินของทิศตะวันออกเฉียงเหนือ


แม้ว่าจะมีสิ่งท้าทายมากมายที่ทำให้บางครั้งเหมือนจะเป็นความบ้าบิ่นมากกว่าความกล้าหาญแต่นับจากวันที่ 6 เมษายน 1909 คณะเดินทางกลุ่มแรกได้ค้นพบจุดที่สูงที่สุดในโลกนำโดย โรเบิรต์ อี เพิรล์ลี่ ซึ่งประมาณ 7 ปีก่อนเป็นผู้หาจุดที่ใกล้ที่สุดของขั้วโลกในขั้วโลกเหนืออเมริกา ในตอนนั้นเขาไปถึง 84องศา 17ลิปดา เหนือและการเดินทางในครั้งนั้นก็ทำให้เขาสูญเสียนิ้วเท้าไป 8 นิ้วจากความเย็นจัด (Frostbite)


ในขณะที่นักสกีจำนวนหนึ่งและสุนัขลากรถเลื่อนหิมะกำลังเผชิญกับสภาพ แวดล้อมที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางมาเยือนขั้วโลกเหนือด้วยเรือเดินสมุทรของทหารในช่วงสงครามเย็นก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งหนึ่งในบรรดาเรือลำแรกๆ คือ USS Skate ที่มาถึงเมื่อ 17 มีนาคม 1959 ในความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาชาร์ล คาร์ลเวิร์ท การมาเยือนขั้วโลกเหนือยังคงเป็นโอกาสพิเศษมากสำหรับลูกเรือ ดังนั้นการจัดงานพิเศษจึงถูกจัดขึ้นอยู่เสมอๆ


ด้วยความเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของนักผจญภัย จึงดูเหมือนว่าสถานที่ที่มีอิทธิพลต่อโลกเรานี้ได้รวมถึงขั้วโลกเหนือนี้ด้วย ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขึ้นของประชากรด้วย ดังนั้นแม้ว่าครั้งหนึ่งที่นี่จะเคยเป็นดินแดนเฉพาะคณะเดินทางของรัฐบาล แต่ในปัจจุบันกลับมีผู้เข้ามามากมายแตกต่างกันไปและในตอนนี้ก็ถึงคราวของประเทศไทยแล้ว เพราะในเดือนเมษายน 2006 เราจะได้เห็นคนไทยไปเยือนยังจุดสูงสุดของโลก ซึ่งมีเพียง Singha Light เท่านั้นที่จะให้โอกาสนี้แก่พี่น้องชาวไทย

ประเทศนอร์เวย์

ภูมิประเทศ- ประเทศนอร์เวย์มีลักษณะรูปร่างคล้ายกระบวยตักน้ำ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศ สวีเดน ฟินแลนด์ และรัสเซีย การโทรคมนาคมในนอร์เวย์ส่วนมากเป็นการเดินทางเรือ


ภูมิอากาศ- ประเทศนอร์เวย์มีลักษณะภูมิอากาศที่แตกต่างกันมาก เช่น ฤดูหนาวจะมืดเกือบตลอดทั้งวัน แต่เมื่อถึงฤดูร้อนก็สว่างทั้งวัน สำหรับตอนเหนือของประเทศนั้นสว่างตลอดทั้งคืน จึงเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ในฤดูนี้


ประชากร- ประเทศนอร์เวย์มีประชากรน้อยมาก เพียง 4 ล้าน 6 แสนกว่าคนเท่านั้น


ภาษา- ชาวนอร์เวย์ใช้บภาษาบุคโมล์ ( Bokmal ) และภาษานีย์นอร์สค์ ( Norsk ) ดังนั้นป้ายตามถนนหนทางจึงมีทั้งสองภาษา


สินค้าส่งออก- ประเทศนอร์เวย์ส่งปลาเป็นสินค้าออกมานานหลายร้อยปีเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าผลิตภัณฑ์ปลาจากนอร์เวย์ มีคุณภาพสูงทั้ง ปลาแซลมอน และ ปลาเทร้าต์


แซมมี่


ธรรมเนียม การตั้งรกราก และวัฒนธรรม ชาวแซมี่ไม่เคยอยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีชาวแซมมี่อยู่ประมาน 6-8หมื่นคน อาศัยอยู่ใน นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ รัสเซีย ลักษณะเด่นบางอย่าง ที่สามารถบ่งบอกถึงชาวแซมมี่ได้คือ ภาษา (ชาวแซมมี่จะพูดกันเอง หรือ พบในรุ่นปู่ย่าขึ้นไป) จริยธรรมและ วัฒนธรรม. อย่างไรก็ตาม ครึ่งหนึ่งของแซมมี่ทั้งหมดอาศัยอยู่ใน นอร์เวย์


ในทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของซามิ เป็นส่วนหนึ่งของ วัฒนธรรมฝั่งอาร์คติก ระบบนิเวศแสดงถึงการล่าสัตว์และการทำกับดัก,การสร้างที่อยู่อาศัย, การลำเลียงขนส่ง, ภาษาและศาสนาก่อนยุคคริสตจักร เราสามารถพบความคล้ายคึลงกันระหว่าง วัฒนธรรมของชาวแซมมี่กับผู้คนที่อาศัยอยู่ทางเหนือของอาร์คติก ในขณะเดียวกันมีความแตกต่างทางวัฒนธรรม ของชาวพื้นเมืองแซมมี่ในกรีนแลนด์,ไซบีเรียและในอเมริกาเหนือ


ประเพณีการดำรงชีวิตของชาวแซมมี่ประกอบด้วย การเพาะปลูก, การล่าสัตว์ ตกปลา, การเลี้ยงสัตว์,หรือ งานหัตถกรรมของ แซมมี่


โยอิค – ลักษณะเพลงของชาวแซมมี่โยอิค,เพลงสวดของชาวแซมมี่ เป็นองค์ประกอบคู่กัน ในทางหนึ่งเป็นการแสดงออกทางดนตรีที่สำคัญของชาวแซมมี่ โยอิคใช้สำหรับบรรยายลักษณะของบุคคล สัตว์หรือธรรมชาติ สามารถอธิบายได้เหมือนการจดบันทึกที่มีจังหวะและท่วงทำนอง ซึ่งให้ความสำคัญกับจังหวะจะโคนมากกว่าการบรรยายในเนื้อเพลง


จุดมุ่งหมายสำคัญของ โยอิค คือการใช้ดนตรีและจินตภาพเพื่อสร้างอารมณ์และบรรยากาศ ในยุคก่อนคริสตกาล โยอิคเป็นส่วนสำคัญของพิธีกรรมทางศาสนา ในบางพิธีนักบวช เน้นจังหวะเพิ่มในโยอิคโดยการเน้นจังหวะกลอง ด้วย2ปัจจัยนี้คือเหตุผลที่บางคนในปัจจุบันเห็นโยอิคเป็นสิ่งชั่วร้าย และไม่เข้ากับวิถีชีวิตคริสเตียน


แสงทางเหนือ (อโรร่า) ในประเพณีแซมมี่ตามประเพณี แสงทางเหนือเป็นกระบวนการเหนือธรรมชาติที่จาถูกใช้เมื่อมีการโต้แย้งกัน แนวคิดนี้พบเห้นได้ทั่วไปในผู้คนที่อาศัยในแถบนี้ที่ๆแสงจากทางเหนือสามารถพบเห็นได้บ่อยสุด สัญลักษณ์ ของแสงทางเหนือ พบได้ที่กลองของนักบวชซามิ ปรากฏการทางธรรมชาตินี้มีชื่อเรียกแตกต่างกันในซามิ เช่น กูโวซาฮาส ซึ่งแปลว่า “แสงที่สามารถได้ยิน” ชาวซามิมักเกี่ยวข้องกับอโรร่า ด้วยเสียง


เทศกาลอีสเตอร์เทศกาลอีสเตอร์ใน คาราสจอค และ คูโตเคโนเป็นงานประจำปีเป็นเวลานาน อีสเตอเป็นช่วงเวลาหนึ่งของปีที่ชาวแซมมี่จากพื้นที่ต่างๆของ แซปมิ (บริเวณที่ชาวซามิตั้งถิ่นฐาน) มารวมตัวกันในเมืองคาราสจอค และ คูโตเคโน พวกเขาฉลองกันในช่วงปลายฤดูหนาว, วันหยุดเทศกาลทางศาสนา, และเป็นเทศกาลแต่งงานด้วย อีสเตอยังเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองทางศาสนาและยังเป้นงานสำคัญทางวัฒนธรรมด้วย ซามิกรังปรีซ์ (งานประกวดดนตรี) ซึ่งจัดขึ้นใน คูโตเคโน่ ในวันศุกร์ช่วงอีสเตอร์ ซึ่งเป็นหนึงในจุดเด่น อีกอย่างที่น่าดึงดูดคือการแข่งเรนเดียร์ประจำปี นักท่องเที่ยวจะถูกผลักดันให้อยุ่ใน “ชั้นนักท่องเที่ยว” เป็นอีก1กิจกรรมที่สร้างรอยยิ้มและต้องอย่าลืมที่จะนำกล้องถ่ายรูปไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: